สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกรูปแบบหลังคาที่เหมาะกับบ้านในเมืองไทย

1e

หลังคา” เป็นส่วนประกอบหนึ่งของอาคารที่มีความสำคัญมาก ทั้งในเรื่องของการป้องกันความร้อน ฝน ลม และความหนาวเย็น รวมทั้งยังเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้อาคารได้เป็นอย่างดี โครงสร้างและวัสดุที่นำมาทำเป็นหลังคาควรเลือก ชนิดที่ทนไฟ ทนทานต่อสภาพอากาศภายนอก และเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี โดยทั่วไปบริเวณใต้หลังคาควรมีพื้นที่เพียงพอ ต่อการติดตั้งอุปกรณ์ของงานระบบต่างๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ โดยมีระยะห่างระหว่างฝ้ากับหลังคาอย่างน้อย 30 เซนติเมตรขึ้นไป  สำหรับรูปแบบของหลังคาที่เรามักเห็นและนิยมกัน ได้แก่ หลังคาจั่ว (Gable Roof) หลังคาปั้นหยา (Hip Roof) หลังคา คอนกรีตเรียบ (Flat Slab Roof) เป็นต้น การพิจารณาว่าจะเลือกใช้หลังคาแบบใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งรูปแบบของอาคารด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกรูปแบบหลังคาที่เหมาะกับบ้านในเมืองไทย

  1. ควรมีชายคายื่นออกมามากพอที่จะป้องกันแสงแดดและไม่ให้ฝนสาดเข้ามา ทางหน้าต่างบ้านทั้งสี่ด้าน  โดยเฉพาะด้านทิศตะวันตกซึ่งมีแดดจัดที่สุด
  2. หลังคาไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไป  และควรมีความลาดชันมากพอที่จะทำให้ น้ำฝนไหลลงได้สะดวก  เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมหลังคาได้ง่าย
  3. รูปแบบของหลังคาไม่ควรซับซ้อนมากเกินไป  เพราะจะมีปัญหาเรื่องการรั่วซึม ของน้ำตรงรอยต่อของหลังคาได้
  4. พื้นที่ใต้หลังคาต้องใหญ่พอที่จะให้มวลอากาศร้อนซึ่งลอยสูงไม่ส่งผ่านไปยังห้อง ด้านล่างได้เร็ว  และต้องมีการระบายอากาศเพื่อให้อากาศร้อนใต้หลังคาถ่ายเท ออกนอกบ้านได้  โดยอาจทำช่องระบายอากาศที่หน้าจั่วของหลังคาหรือฝ้าที่ชายคา และอาจติดฉนวนกันความร้อนบริเวณใต้หลังคาร่วมด้วย  ก็จะช่วยให้บ้านมีสภาวะ น่าสบายมากขึ้น  ปัจจุบันฉนวนกันความร้อนมีให้เลือกใช้หลายแบบ  อาทิ  แบบใยแก้วและแบบพอลิเอทิลีน
This entry was posted in สินค้า and tagged . Bookmark the permalink.

Comments are closed.