เนื่องด้วยนักเที่ยวแล้ว การได้ออกไปเดินทางที่ไหนสักทีนั้น ถือเป็นสิ่งที่น่าเร้าใจด้วยกันมีความท้าท้ายสุดๆ และประเทศที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกหนึ่งประเทศคือประเทศอิตาลี ที่เชื่อเลยว่าหากใครได้ไปสัมผัสไปทัวร์อิตาลีแค่ครั้งเดียวก็จะต้องพึงใจเป็นมั่นเป็นเหมาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงโรมที่เป็นเมืองที่หากได้ไปสัมผัสแล้วต้องไปให้ครบทุกซอกทุกมุม พร้อมทั้งวันนี้เรามีพื้นที่ 3 จุดที่ต้องไปลอง ไปดูกันเลยจร้า
จัตุรัสนาโวนา (Piazza Navona)
ที่นี่อาจไม่ใช่แห่งประพาสยอดฮิตของโรม แต่ลานกว้างแห่งนี้อยู่ด้วยแล้วผ่องใส บันเทิงเจริญจิตดีแท้ ดงของดาราที่พากันมาปล่อยของดี น้ำพุสวยๆ ตึกรามสีสด เสาโอเบลิสก์ พร้อมทั้งคาเฟ่พร้อมกับร้านไอติมริมจัตุรัส เป็นเครื่องปรุงที่ทำให้เสน่ห์ของจัตุรัสนาโวนาไม่เคยเหือดแห้ง
แพนธีออน (Pantheon)
การสร้างของวิหารงามแห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะแห่งการสรรค์สร้าง ของนักออกแบบกาลเวลาเชย ซึ่งแพนธีออนนั้นสร้างขึ้นเมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาลโดยมาร์คัส กอกริปปา โดยได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่เมื่อระยะต้นศตวรรษที่ 2 นอกจากสภาวะที่ยังคงไม่ผุพังไปตามกาลเวลาแล้ว สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือ การออกแบบเรือนให้มีความกว้าง 142 ฟุต และสูง 142 ฟุตเช่นกัน ประตูทางเข้าโลหะสีทองบรอนซ์ที่มีน้ำหนักถึง 20 ตัน ในสมัยกลางวิหารแพนธีออนได้กลายเป็นโบสถ์ทางคริสต์ศาสนา จึงยังทรงสภาพเหมือนเมื่อแรกสร้างได้จนปัจจุบัน ทั้งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการสู้รบในประวัติศาสตร์มานับไม่ถ้วน ไม่เพียงเท่านั้น แพนธีออนยังเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์ด้วยกันคนสำคัญของอิตาลี อย่างพระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 อีกด้วย
น้ำพุเทรวี่ (Trevi Foutain)
น้ำพุเทรวี่แห่งนี้ ขึ้นต้นเป็นที่รู้จักมักจี่และมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่อง “Three Coins in the Fountain” แถวนี้ผู้คนเบียดแน่นจนแทบไม่มีที่ยืน เทรวี่จอแจกว่าที่ไหน ๆในโรม คงเป็นเพราะความวิจิตรทางสถาปัตย์ จึงทำให้ผู้คนแห่แหนกันมามากขนาดนี้ แต่กว่าจะออกมาสวยแบบนี้ มีการสร้างขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายที จนกระทั่งลงตัวที่แบบออกแบบของสถาปนิกชื่อฟรานเซสโก ซาลวี(Francesco Salvi )ในช่วงศตวรรษที่ 17 นี้เอง ส่วนรวมของน้ำพุนั้นมีรูปปั้นของเทพเจ้าเนปจูน (Neptune) ขี่รถม้าติดปีก แสดงถึงความมีพลานามัยที่วิภู ด้วยกันความเพียบพร้อมของแว่นแคว้น